บันทึกอนุทิน
วิชา การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี 13 ตุลาคม 2557 ครั้งที่ 9
เวลาเข้าสอน 11.00 น. เวลาเรียน 11.30 น.
เวลาเลิกเรียน 14.00 น.
วันนี้อาจารย์สอนเกี่ยวกับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และเด็กออทิสติก โดยอาจารย์แจกใบชีสให้คนละชุดเพื่อดูตาม power point ของอาจารย์ที่อาจารย์เตรียมมา
สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ
เด็ก L.D.
ด้านการอ่าน
ตัวอย่าง การอ่าน เช่น
จาน----->จาง/บา
ง่วง------>ม่วม/ม่ง/ง่ง
เลย------>เล
โบราณ------>โบรา
หนังสือ------>สือ
อรัญ------>อะรัย
ด้านการเขียน
ตัวอย่างการเขียน เช่น
ด้านการคิดคำนวณ
ตัวอย่างการคิดคำนวณ เช่น
ตัวอย่าง การคิดคำนวณ 16 + 8 =
1) การคิดของเด็กปกติ
1
1 6
+
8
2 4
2) การคิดคำนวณของเด็กที่บกพร่องทางการเรียน เด็ก L.D.
1
2.1) 1 6 2.2) 1 6
+ +
8 8
1 1 4 1 1 4
**จากตัวอย่างข้างบนมี 2 ตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 1 เป็นการคิดของเด็กปกติซึ่งเด็กปกติจะคิดจากขวาไปซ้ายหรือจากหลักหน่วยไปหาหน่วยสิบจะได้คำตอบถูกต้องและการเขียนที่ถูกหลัก
ตัวอย่างที่ 2 เป็นการคิดของเด็ก L.D.
จากข้อที่ 2.1) เด็กL.D. จะคิดจากด้านขวาไปซ้ายจากหลักหน่วย คือ 6+8 จะได้เท่ากับ 14 ใส่ 4 ทด 1 แต่หลักสิบเด็กดึงตัวทดและตัวตั้งลงมาเขียน เป็นคำตอบ จึงได้ คำตอบ เป็น 114
จากข้อที่ 2.2) เด็กL.D.จะคิดจากด้านซ้ายไปขวาคือ เด็กดึงตัวตั้ง1 ลงมา และบวก 6กับ 8ได้ 14 คำตอบของเด็กจึงเป็น 114
** การคิดของเด็กL.D. จึงคิดคำนวณไม่ได้เพราะเด็กเข้าใจในความคิดของตัวเองว่าถูกและอาจเดาทำให้ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลา บวกและลบ ตีโจทย์เลขไม่ออก จึงทำให้ได้คำตอบแบบผิดๆ
เด็กออทิสติก
ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว
การประเมินมี 4 ทักษะ
พฤติกรรมของเด็กปกติและเด็กออทิสซึม
เด็กปกติ เด็กออทิสซึม
ดูหน้าแม่ - - - > ไม่มองตา
หันไปตามเสียง - - - > เหมือนหูหนวก
เรียนรู้คำพูดเพิ่มเติม - - - > เคยพูดได้ต่อมาหยุดพูด
ร้องเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าใกล้ - - - > ไม่สนใจคนรอบข้าง
จำหน้าแม่ได้ - - - > จำคนไม่ได้
เปลี่ยนของเล่น - - - > นั่งเล่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
เคลื่อนไหวอย่างมีจุดมุ่งหมาย - - - > มีพฤติกรรมแปลกๆ
สำรวจและเล่นตุ๊กตา - - - > ดมหรือเลียตุ๊กตา
ชอบความสุขและกลัวความเจ็บ - - - > ไม่รู้สึกเจ็บปวด ชอบทำร้ายตัว เองทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีสาเหตุ
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติก
องค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา
ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย 2 ข้อ
-ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
-ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
-ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุกสนานร่วมกับผู้อื่น
-ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย 1 ข้อ
-มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
-ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
-พูดซ้ำๆหรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
-มีความสนใจที่ซ้ำๆอย่างผิดปกติ
-มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
-มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
-สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
พฤติกรรมการทำซ้ำ
-นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
-นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
-วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
-ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
พบความผิดปกติอย่างน้อย 1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
-ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
-การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
-การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
Autistic Savant
-กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (Visual thinker) จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
-กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music,math and memory thinker) จะใช้การคิดแบบนิรนัย(top down thinking)
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ถ้าได้สอนเด็กพิเศษเราสามารถดูแลเด็กพิเศษได้อย่างเต็มที่การวางแผนในการสอนเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ และเข้าใจปัญหาของเขาเพื่อครูจะได้ปฏิบัติตนให้ถูกทาง ส่วนสำคัญคือการให้กำลังใจให้เด็กพิเศษและการช่วยเหลือ ดูแลเด็ก
ประเมินตนเอง
มีความรับผิดชอบ แต่งกายเรียบร้อย ดูใบงานตามเนื้อหาที่อาจารย์สอน บางทีก็พูดเกินไป แต่ก็เก็บรายละเอียดได้
ประเมินเพื่อนๆ
เพื่อนๆตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อยบรรยากาศในห้องเย็นสบายทำให้เพื่อนบางคนก็เกิดอาการ นอนหลับในห้อง แต่ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจฟังอาจารย์
ประเมินอาจารย์
อาจารย์แจกใบงานเพื่อให้นักศึกษาดูตามรายละเอียดที่สอนเพื่อให้เข้าใจมากกว่านี้ท่านจึงได้แจกใบงานให้ อาจารย์แต่งกายเรียบร้อยน่ารัก และสอนเป็นกันเองกับนักศึกษามากไม่กดดันเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น